Du-man คำสาปแห่งบราเวอร์ - นิยาย Du-man คำสาปแห่งบราเวอร์ : Dek-D.com - Writer
×

    Du-man คำสาปแห่งบราเวอร์

    คำสังจากเหล่าทวยเทพที่ผิดพลาด กลายเป็นคำสาปที่มิอาจสู่สุขติ พันธะจากมหาสงครามในอดีตกาล สิ่งที่พวกเขาพยายามหลีกหนีมาโดยตลอด กำลังบีบบังคับให้พวกเขาผันตัวเป็นนักฆ่าผู้ไร้ปราณีอย่างไม่มีทางเลือก

    ผู้เข้าชมรวม

    44

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    44

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 ส.ค. 57 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่บันทึกการเปลี่ยนแปลง

    หน้าประวัติศาสตร์แห่งความรุ่งเรื่องของเผ่าพันธุ์มนุษย์

    ข้า จักพาท่านทั้งหลายย้อนกลับไปสืบหาความเป็นจริง

    ว่ากว่าที่พวกท่านจะรุ่งเรืองได้เช่นนี้


    เผ่าพันธุ์ข้า เป็นเช่นไร...



    อรุณสวัสดิ์ท่านนักอ่านทั่วไป และนักอ่านเงาที่รักทุกท่านนะฮะ
    ก่อนอื่นเลย ผมจะพาคุณไปทำความรู้จักกับข้อมูลเบื้องต้นของนิยายเรื่องนี้ก่อนเลยแล้วกัน




     
            My Story. . .
       
    นิยายเรื่องนี้นะฮะ ผมได้แรงบัลดาลใจมาจากหนังสือการ์ตูนเรื่องหนึ่งของเพื่อนร่วมชั้น (จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร) ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงหลังสอบปลายภาคได้ไม่นาน กำลังวุ่นวายและเคลียดกับ Project ที่ต้องรีบส่ง (ตอนนั้นผมอยู่ระดับ ปวช.ปี 3) ผมยืมมาอ่านคร่าว ๆ เพื่อฆ่าเวลาเล่นเฉย ๆ

        ซึ่งเรื่องราวมีอยู่ว่า กลุ่มของตัวละครเอกนั้นเป็นนักฆ่า ที่ไม่มีวันตาย มิหนำซ้ำ ถ้าเกิดพลาดท่าตาย หรือยอมฆ่าตัวตาย จะฟื้นชีพกลับมาอีกครั้ง และหลังจากที่ฟื้นขึ้นมานั้น ก็จะมีพละกำลังที่แข็งแกร่งมากขึ้นแทบเป็นเท่าตัว 

        ผมนั่งคิดอยู่นาน ว่ามันดูจืดชืดเกินไป ฉากฆ่าเลือดสาดก็โหด รุ่นแรงได้อารมณ์อยู่หรอก แต่ถ้าไม่มีวันตาย มันจะมีความกลัวอะไร? แล้วถ้าฟื้นมาโหดกว่าเดิม เป็นผม ผมคงไม่ทำอะไรแล้ว นั่งฆ่าตัวตายมันทั้งวันอะ

        ก็เลยเกิดไอเดียที่จะสร้างนิยายเรื่องใหม่ขึ้นมา โดยเกิดจากความคิดเล่น ๆ ที่ว่า ถ้าตัวดำเนินเรื่องมันตายไม่ได้เพราะคำสาปละ? อยู่อย่างทนทุกข์ทรมาณ ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวัน ๆ หาสีสันให้ชีวิตจากการฆ่าคน. . . แต่มันโคตรไม่สมเหตุสมผลเลย ฆ่าคนเพียงเพราะสนองตันหาของตัวเอง พรากชีวิตคนหนึ่งคนอย่างผักปลา การกระทำมันตัวร้ายชัด ๆ . . . ถ้างั้นก็โยนไปให้เผ่าพันธุ์ของตัวร้ายไปเลยสิ เผ่าพันธุ์ที่คุกคามมนุษย์มาตั้งแต่สมัยอดีตกาล ตัวเอกก็จะมีหน้าที่ต่อสู้กับพวกร้ายแทน และกลายเป็นผู้พิทักษ์ไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งผมแก้ไขโครงเรื่อง และปกปิดข้อบกพร่องอยู่หลายชั่วโมงเหมือนกัน




            เรื่องย่อ. . .
        เมื่อครั้งที่เหล่าเทพได้สร้างโลกขึ้นมาได้ไม่นาน เทพก็ได้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์แรกขึ้นบนโลก นามว่า "โฮว์ลอน่า" เผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาที่เฉียบแหลม รวดเร็วว่องไว ทั้งยังสามารถอยู่ในสภาพอากาศที่หลากหลายได้อีกด้วย เผ่าโฮว์ลอน่ามีดวงตาสองสี แล้วแต่ความสามารถที่ติดมากับตัวโดยกำเนิด ซึ่งถือเป็นพรที่องค์เทพมอบให้คนละสองอย่าง

        ซึ่งด้วยความสามารถพิเศษที่พวกเขามีนั้นพัฒาเร็วมากแบบก้าวกระโดด ทำให้อาจกลายเป็นอันตรายต่อเหล่าทวยเทพได้ จึงมีมติจากองค์ประชุม ให้จัดการทำลายเผ่าพันธุ์นี้ทิ้งซะให้สิ้นซาก แต่หากจะลงมือเองคงดูไม่ดีแน่ จึงได้สร้างอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งขี้นมา เพื่อมอบหน้าทีให้กำจัดเผ่าโฮว์ลอน่าทิ่งซะ เผ่าพันธุ์นี้ ถูกขนานนามว่า "บราเวอร์" 

        แต่เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์โฮว์ลอน่าที่มากเกินกำลัง เผ่าบราเวอร์จึงกลายเป็นผู้ถูกล่าแทน เหตุการณ์กลับตาลปัตร กลายเป็นมหาสงครามสองเผ่าพันธุ์ ที่กินเวลาแรมปี จนในที่สุด เหล่าทวยเทพก็ลงมติกันว่า ให้ทำลายทุกอย่างทิ้งเสีย แล้วสร้างโลกใหม่ขึ้นมา แต่เทพ "เฟียร์ลีน" คัดค้าน โดยให้เหตุผลว่าจะเป็นการทำลายสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก เพื่อที่จะทำในสิ่งที่ได้ผลตอบแทนกลับมาไม่คุ้มเสีย 

        เหล่าทวยเทพเห็นพร้อมต้องกันถึงเหตุผล และพร้อมใจกันปล่อยพลังใส่ลงไปที่สมรภูมิ สถานที่ที่ทั้งสองเผ่าห่ำหันกัน จนเกินระเบิดออกมาเป็นวงกว้างหลายร้อยกิโลเมตร ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก และถูกทอดทิ้งจากองค์เทพ พื้นที่หนึ่งในห้าของดินแดนทั้งหมด กลายเป็นสุสานที่เต็มไปด้วยเถ้าถ่านและซากต้นไม้นา ๆ พรรณที่ตอนนี้ดำเป็นตอตะโกแล้ว

        หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าทวยเทพก็ได้สร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ขึ้นมา ซึ่งถูกขนานนามว่า "มนุษย์" และดำรงเผ่าพันธุ์ก่อนแพร่ขยายอนาเขตไปทั่วดินแดน จนเวลาผ่านไปกว่า 6,750 กว่าปี เหล่าทวยเทพก็ได้รู้ความจริงอีกครั้งว่า เผ่าพันธุ์โฮว์ลอน่า และเผ่าพันธุ์บราเวอร์ยังไม่สูญสิ้นไป และยังคงดำรงเผ่าพันธุ์กลมกลืนไปกับเหล่ามนุษย์ เมื่อเรื่องนี้เข้าถึงที่ประชุม ก็ได้มีมติให้เนรเทศเทพเฟียร์ลีน ให้ลงไปอยู่ที่โลก และสาปให้กลายเป็นสัตว์อสูรรูปร่างใหญ่โต มีแขนยาวลากพื้น มีขาเล็ก มีเขาใหญ่ที่หนักอึ้งจนแทบเงยหน้าไม่ขึ้น และถูกเปลวเพลิงสีดำแผดเผ่าร่างกายไปชั่วกัปชั่วกัลป์

        หลังจากที่เฟียร์ลีนถูกเนรเทศลงมายังโลก และได้หนีไปซ่อนตัวแถวภูผามืดนั้น ก็ได้เกิดตำนานปีศาจภูผาดำขึ้น ทำให้มนุษย์เแถวนั้นต่างพากันหวาดกลัว และไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไปที่นั้นอีกเลย 

        ทางด้านเผ่าพันธุ์บราเวอร์ที่เหลือรอดจากสงครามนั้น ไม่สามารถขยายเผ่าพันธุ์ต่อได้ เพราะยังทำภารกิจที่องค์เทพได้มอบหมายให้ไม่สำเร็จ รวมทั้ง ไม่สามารถสิ้นลมหายใจได้ด้วย จนกว่าจะล้างเผ่าพันธุ์โฮว์ลอน่าจนหมดสิ้น ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป ข่าวความเคลื่อนไหวของเผ่าพันธุ์โฮว์ลอน่าก็เริ่มเลือนหาย การสืบหาที่อยู่ของเผ่าโฮว์ลอน่าเพื่อลอบสังหารก็ยากเข้าไปทุกที มีเพียงเหตุการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างประหลาด และคาดว่าเป็นฝีมือของเผ่าโฮว์ลอน่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเบาะแสให้ตามหาง่ายขึ้นบ้าง

        ส่วนทางด้านของเผ่าโฮว์ลอน่าที่เหลือรอดชีวิตนั้น ก็สูญสิ้นพลังและความสามารถไปเกือบหมด มีเพียงพลังบางส่วน และพรสวรรค์ที่ได้รับมาแต่กำเนิด พัฒนาอาวุธที่จะต่อต้านองค์เทพ และกลับมามีพลังอีกครั้ง จนถึงวันที่รอคอย อาวุธที่ถูกพัฒนาจาก DNA ของแต่ละคน ซึ่งมีความสามารถ และประสิทธิภาพแตกต่างกัน มาช่วยทดแทนพลังที่สูญเสียไปของคน ๆ นั้น เวลาแห่งสงครามกำลังจะกลับมาอีกครั้ง 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น